วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ประเภทของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

เรื่อง ลักษณะของการเชื่อมต่ออินเทอร์แต่ละประเภท

1.การเชื่อมต่อแบบ Dial Up



          เป็นการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตโดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์บุคคล กับสายโทรศัพท์บ้านที่เป็นสายตรงต่อเชื่อมเข้ากับโมเด็ม (Modem) ผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตต้องทำการติดต่อกับผู้ให้บริการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านหมายเลขโทรศัพท์บ้าน โดยผู้ให้บริการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจะกำหนดชื่อผู้ใช้ (Username) และรหัสผ่าน (Password) มาให้เพื่อเข้าใช้บริการอินเตอร์เน็ต
ข้อดี 
- อุปกรณ์มีราคาถูก
- การติดตั้งง่าย
- การเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ทำได้ง่าย
ข้อเสีย
- อัตราการรับส่งข้อมูลค่อนข้างต่ำเพียง ไม่เกิน 56 kbit (กิโลบิต) ต่อวินาที

2.การเชื่อมต่อแบบ ISDN(Internet Services Digital Network)



          เป็นการเชื่อมต่อที่คล้ายกับแบบ Dial Up เพราะต้องใช้โทรศัพท์และโมเด็มในการเชื่อมต่อ ต่างกันตรงที่ระบบโทรศัพท์เป็นระบบความเร็วสูงที่ใช้เทคโนโลยีระบบดิจิตอล (Digital) และต้องใช้โมเด็มแบบ ISDN Modem ในการเชื่อมต่อ ดังนั้นการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบ ISDN จะต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้
- ต้องติดต่อผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (ISP) ที่ให้บริการการเชื่อมต่อแบบ ISDN
- การเชื่อมต่อต้องใช้ ISDN Modem ในการเชื่อมต่อ
- ต้องตรวจสอบว่าสถานที่ที่จะใช้บริการนี้ อยู่ในอาณาเขตที่ใช้บริการ ISDN ได้หรือไม่
ข้อดี 
- ไม่มีสัญญาณรบกวน มีความเร็วสูง และยังคงสามารถใช้โทรศัพท์เพื่อพูดคุยไปได้พร้อม ๆ กับการเล่นอินเตอร์เน็ต 
ข้อเสีย
- มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าระบบ Dial-Up

3.การเชื่อมต่อแบบ DSL(Digital Subscriber Line)



          เป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงโดยใช้สายโทรศัพท์ธรรมดา ที่สามารถใช้อินเตอร์เน็ตและพูดผ่านสายโทรศัพท์ปกติได้ในเวลาเดียวกัน สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการติดตั้งระบบอินเตอร์เน็ตแบบ DSL ก็คือ
- ต้องตรวจสอบว่าสถานที่ที่ติดตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ให้บริการระบบโทรศัพท์แบบ DSL หรือไม่
- บัญชีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตในแบบ DSL
- การเชื่อมต่อต้องใช้ DSL Modem ในการเชื่อมต่อ
- ต้องติดตั้ง Ethernet Adapter Card หรือ Lan Card ไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย
ข้อดี 
- มีความเร็วสูงกว่าแบบ Dial-Up และ ISDN 
ข้อเสีย 
- ไม่สามารถระบุความเร็วที่แน่นอนได้

4.การเชื่อมต่อแบบ Cable



          เป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยผ่านสายสื่อสารเดียวกับ Cable TV ทำให้เราสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไปพร้อม ๆ กับการดูทีวีได้ ต้องจัดหาอุปกรณ์เพิ่มเติม คือ
- ใช้ Cable Modem เพื่อเชื่อมต่อ
- ต้องติดตั้ง Ethernet Adapter Card หรือ Lan Card ไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย
ข้อดี 
-ถ้ามีสายเคเบิลทีวีอยู่แล้ว สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้โดยเพิ่มอุปกรณ์ Cable Modem ก็สามารถเชื่อมต่อได้ 
ข้อเสีย 
-ถ้ามีผู้ใช้เคเบิลในบริเวณใกล้เคียงมาก อาจทำให้การรับส่งข้อมูลช้าลง

5.การเชื่อมต่อแบบดาวเทียม (Satellites)



          เป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ระบบที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันเรียกว่า Direct Broadcast Satellites หรือ DBS โดยผู้ใช้ต้องจัดหาอุปกรณ์เพิ่มเติม คือ
- จานดาวเทียมขนาด 18-21 นิ้ว เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวรับสัญญาณจากดาวเทียม
- ใช้ Modem เพื่อเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ต
ข้อเสีย 
- ต้องส่งผ่านสายโทรศัพท์เหมือนแบบอื่น ๆ
- ความเร็วในการรับส่งข้อมูลต่ำมากเมื่อเทียบกับแบบอื่น ๆ
- ค่าใช้จ่ายสูง

วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต

เชื่อมอินเทอร์เน็ตเข้า Samsung Smart TV





1.อุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีอะไรบ้าง
   ตอบ  กรณีที่เชื่อมต่อแบบไร้สาย
            - Wireless Router
            กรณีที่เชื่อมต่อโดยใช้สาย LAN
            - สาย LAN
            กรณีที่เชื่อมต่อโดยใช้ USB Aircard
            - USB Aircard

2.ขั้นตอนในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
   ตอบ กรณีที่เชื่อมต่อแบบไร้สาย
           1.กดที่ Menu
           2.เข้าไปที่ Network > Network Settings 
           3.เลือก Network Type ให้เป็นแบบ Wireless
           4.เลือกคลื่น Wireless
           5.ใส่รหัส
           กรณีที่ใช้สาย LAN
           1.เชื่อมต่อสาย LAN เข้าที่ช่องเสียบสาย LAN ด้านหลังของเครื่อง Samsung Smart TV
           2.เลือก Network Type ให้เป็นแบบ Wired
           กรณีที่เชื่อมต่อโดยใช้ USB Aircard
          -เชื่อมต่อ USB Aircard เข้าที่ช่อง USB ด้านข้างของ Samsung Smart TV